ว่ากันว่า น้ำหอม เป็นสิ่งที่คนใช้หมดแล้วมักไม่ซื้อซ้ำ จะพยายามหากลิ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เราเป็นคนแบบนั้นเช่นกัน
ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนความรู้สึก กลิ่น คืออย่างหนึ่งที่สำคัญ เราไม่ยึดโยงกลิ่นใดกลิ่นหนึ่งเข้ากับตัว หรือพยายามจะใช้มันเพื่อสร้าวอัตลักษณ์
แต่เราใช้น้ำหอม เพื่อสร้างและเปลี่ยนความรู้สึกจริงๆ กระนั้น น้ำหอมก็ถูกรัฐจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทั้งที่มันโคตรจำเป็นเลยใน 5 sense ของมนุษย์
กลิ่นเป็นอะไรที่รีวิวแล้วคนเก็ทได้ยาก ว่ามันเป็นอย่างไร นอกจากจะไปหาดมเอง
Creed Avantus
ไม่มีใครที่เล่นน้ำหอมแล้วไม่รู้จัก Creed สูตรน้ำหอมข้ามกาลเวลา และเป็นแรงบันดาลใจให้นักปรุงพยายามเทียบเคียง
กลิ่นคลาสสิคทีเดียว แต่ไม่โบราณ ไม่แอนทีค แต่ก็ไม่ถึงกับโมเดิร์นล้ำหน้าใคร รู้สึกถึงต้นตำรับของกลิ่นหอม
เหมาะใช้ในช่วงอากาศร้อน ช่วงกลางวัน
ถ้าใช้ในอากาศเย็นๆ อบๆ เช่นก่อนฝนตก แนะนำให้ตัดด้วย Vertiver เข้มๆ หน่อย จะเข้ากันมาก
Vertiver Extreme
ผมมักจะใช้ตัวนี้คู่กับ Avantus เป็นอะไรที่เข้าขากันดีมากๆ แต่บางคราวก็ฉีดเดี่ยวๆ แรกๆ จะรู้สึกไม่ชอบมัน เพราะติดเขียวเยอะไปหน่อย
แต่เป็นกลิ่นเดียวที่ทำให้ประหลาดใจเวลามีลมพัดผ่านเย็นๆ โชยมาแล้วรู้สึก nostalgia ถึงความรู้สึกดีๆ สบายๆ ไม่มีอะไรให้คิดในหัวนอกจากกลิ่นที่ได้รับเข้าจมูกอยู่นี้ มันแปลกมากจริงๆ เหมือนโดนสะกด
Dolce gabbana The one
กลิ่นไม่ค่อยเนเชอรัล มาแนวโซฟิติเคท ไม่ค่อยคุ้นเคย มีโอกาสได้ใช้น้อย เพราะมันทางการพอสมควร
Issey Miyake F
เฟรช สดชื่น ถ้าวันไหนร้อนมากถึงมากที่สุด ตัวนี้ให้ฟีลสดชื่นได้จริง แต่ถ้าหน้าฝน หน้าหนาว จะลืมตัวนี้ไปเลย
CH Men Prive
กลิ่นเหมือนเครื่องหนัง เหมือนเบาะรถหรูๆ ระดับปอร์เช่ มีความขมๆ นิดหน่อย แต่ไม่แก่ แอบสไปซ์อยู่พอตัว เหมาะกับอากาศเย็นและกลางคืน ส่วนถ้าอากาศร้อนดูไม่ค่อยเวิร์คนัก แต่ถ้าอยากเพิ่มความตื่นเต้นก็แล้วแต่ เป็นน้ำหอมที่ฉีดแล้วรู้สึกว่ามีอะไรสูบฉีดอยู่ในตัว